“El Clásico,” นี่คือชื่อที่ทุกคนรู้จักในวงการฟุตบอลโลก มันไม่ใช่แค่เกมฟุตบอลธรรมดา แต่เป็นการปะทะ titans ของ La Liga ระหว่างสองยักษ์ใหญ่: เรอัล มาดริด และบาร์เซโลน่า การแข่งขันนี้ล้นไปด้วยประวัติศาสตร์ ความตึงเครียด และความคาดหวังของแฟนบอลทั่วโลก
El Clásico เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1902 และมาไกลอย่างมากตั้งแต่นั้นมา แต่กว่าจะถึงจุดที่เป็น “เกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” นี้ได้มีเหตุการณ์สำคัญหลายอย่างที่ต้องผ่านไป หนึ่งในเหตุการณ์นั้นก็คือการเกิดขึ้นของผู้เล่นชื่อดังชาวสเปน ชื่อ ซีดาน โซเน่ (Zinédine Zidane)
โซเน่ ถือเป็นตำนานตลอดกาลทั้งสำหรับ เรอัล มาดริด และทีมชาติฝรั่งเศส เขามีเทคนิคการเล่นที่ไร้เทียมทาน และความสามารถในการเปลี่ยนเกมได้ด้วยทักษะอันหาที่ติยาก โซเน่ เข้ามาอยู่ในทีมเรอัล มาดริด ในปี 2001 และทันทีที่เขาลงสนามก็สร้างความฮือฮาให้กับแฟนบอลทั่วโลก
การส่งมอบลูกยิงที่เปลี่ยนเกม El Clásico
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2002, El Clásico ครั้งนี้จัดขึ้นที่สนามกีฬา Santiago Bernabéu และเป็นครั้งแรกที่ โซเน่ ได้เผชิญหน้ากับ บาร์เซโลน่า ในฐานะนักเตะของ เรอัล มาดริด เกมดำเนินไปอย่างดุเดือด ทีมนำไปนำมาน้อยกว่า 5 นาที
นาทีที่ 74 เกิดเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลง El Clásico ไปตลอดกาล โซเน่ รับบอลจากเพื่อนร่วมทีมและทำการส่งลูกยิงด้วยลีลาสุดเยี่ยมผ่านมือผู้รักษาประตูของบาร์เซโลน่า ลูกยิงนั้นถูกพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในลูกยิงที่สวยที่สุดในประวัติศาสตร์ El Clásico
ผลกระทบต่อ El Clásico และฟุตบอลสเปน
ลูกยิงของ โซเน่ ไม่เพียงแต่ทำให้ เรอัล มาดริด ชนะเกมเท่านั้น มันยังส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อ El Clásico และวงการฟุตบอลสเปน
- เพิ่มความตึงเครียด: ลูกยิงที่งดงามและสำคัญของ โซเน่ ทำให้ El Clásico มีความตึงเครียดมากขึ้น
- สร้างความนิยม: ลูกยิงนั้นกลายเป็นภาพจำของ El Clásico และทำให้เกมนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลก
El Clásico: ย้อนหลังไปสู่ยุคทองของฟุตบอลสเปน
ปี | ผลการแข่งขัน |
---|---|
2002 | Real Madrid ชนะ 2-1 |
2003 | Barcelona ชนะ 2-1 |
ตารางข้างต้นแสดงให้เห็นถึงความดุเดือดของ El Clásico ในช่วงที่ โซเน่ ยังคงค้าแข้งอยู่ใน La Liga
El Clásico เป็นเกมฟุตบอลที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และเต็มไปด้วยโมเมนต์สุดยิ่งใหญ่ จากการมาของผู้เล่นอย่าง โซเน่ ทำให้ El Clásico กลายเป็นหนึ่งในเกมฟุตบอลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก