ประวัติศาสตร์อังกฤษเต็มไปด้วยเหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของชาติไปตลอดกาล หนึ่งในเหตุการณ์เหล่านั้นก็คือการปฏิวัติรุ่งอรุ่น (Glorious Revolution) ในปี ค.ศ. 1688 ซึ่งเป็นการล้มล้างระบอบกษัตริย์สัมบูรณ์และนำไปสู่การสถาปนา constitutional monarchy
การปฏิวัติครั้งนี้มีต้นเหตุมาจากความขัดแย้งทางศาสนาระหว่างกษัตริย์เจมส์ที่ 2 และประชาชนชาวอังกฤษ กษัตริย์เจมส์ที่ 2 เป็นโรมันคาทอลิกซึ่งพยายามที่จะบังคับให้ศาสนิกชาวโปรเตสแตนท์ยอมรับศาสนาของพระองค์ นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และดำเนินการในลักษณะที่ authoritarian
ความไม่พอใจต่อกษัตริย์เจมส์ที่ 2 ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยกลุ่มผู้ต่อต้านซึ่งประกอบไปด้วย 귀족 Protestant, สมาชิกสภา, และประชาชนทั่วไป ร่วมมือกันเพื่อโค่นล้มพระองค์
ในที่สุด กลุ่มผู้ต่อต้านก็เชิญวิลเลียมแห่งออarang และมารี ซึ่งเป็นพระโอรสและพระธิดาของเจมส์ที่ 1 กษัตริย์แห่งอังกฤษมาขึ้นครองราชย์ การครองราชย์ครั้งนี้ถือเป็นการปฏิวัติที่ไม่มีการหกเลือด หรือ “bloodless revolution” เนื่องจากกษัตริย์ เจมส์ที่ 2 โปรยศาสนิกคาทอลิก และหนีออกนอกประเทศไปยังฝรั่งเศส
การปฏิวัติรุ่งอรุ่นเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์อังกฤษ การปฏิวัติครั้งนี้ได้นำมาซึ่ง:
-
Bill of Rights:
ซึ่งเป็นเอกสารที่รับรองสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และจำกัดอำนาจของกษัตริย์ -
Parliamentary Sovereignty: ทำให้สภาผู้แทนราษฎรกลายเป็นอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศ
การปฏิวัติรุ่งอรุ่นยังส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆทั่วโลกด้วย เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการปฏิวัติและการเรียกร้องประชาธิปไตยในหลายประเทศ
Thomas More: นักปรัชญาผู้ไม่ยอมอ่อนข้อต่ออำนาจกษัตริย์
หลังจากการปฏิวัติรุ่งอรุ่นแล้ว อังกฤษก็เดินหน้าสู่ยุคทองของการฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance) และความคิดใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในช่วงเวลานี้ Thomas More ได้ผุดขึ้นมาเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในวงการกฎหมายและปรัชญา
More เป็นนักปรัชญา นักเขียน และนักการเมืองชาวอังกฤษที่เกิดในปี ค.ศ. 1478
More มีความเชื่อมั่นอย่างมากในหลักการของ “Utopia” ซึ่งเป็นสังคมอุดมคติที่ไม่มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม More เชื่อว่า สังคมควรจะปกครองโดยกฎหมายและความยุติธรรม และทุกคนควรมีโอกาสเท่าเทียมกัน
ในปี ค.ศ. 1516 More ได้ตีพิมพ์หนังสือ “Utopia” ซึ่งเป็นนวนิยายที่บรรยายถึงสังคมในอุดมคติที่ไม่มีความขัดแย้ง โรคภัย หรือความยากจน
More ยังคงเป็นบุคคลที่มีความสำคัญในยุคปัจจุบัน และแนวคิดของเขาเกี่ยวกับความเท่าเทียมกันและความยุติธรรมยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก
ชีวิตหลังจากการดำรงตำแหน่ง Lord Chancellor:
More ได้รับแต่งตั้งเป็น Lord Chancellor ภายใต้รัชสมัยของ King Henry VIII ในปี ค.ศ. 1529 แต่ More ไม่ยอมตกลงกับพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ที่ต้องการหย่าร้าง Catherine of Aragon
More ซึ่งเป็นคาทอลิกผู้เคร่งครัด เชื่อว่าการแต่งงานของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 เป็นศักดิ์สิทธิ์ และไม่สามารถถูกยกเลิกได้ More ยืนกรานที่จะปฏิเสธคำสั่งของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8
More ถูกจับกุมและถูกตัดสินประหารชีวิตในข้อหา “treason”
More ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 1535 More ได้รับการประกาศเป็น “Saint” โดย Holy See ในปี ค.ศ. 1935
More เป็นตัวอย่างของความยอมรับและความไม่ยอมอ่อนข้อต่ออำนาจ
More สอนให้เราเห็นคุณค่าของความยุติธรรม ความเท่าเทียมกัน และความกล้าหาญในการยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง
สรุป: การปฏิวัติรุ่งอรุ่น เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์อังกฤษ
การปฏิวัติครั้งนี้ได้นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคมอย่างลึกซึ้ง และเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการปฏิวัติและการเรียกร้องประชาธิปไตยในหลายประเทศทั่วโลก
Thomas More เป็นนักปรัชญาผู้มีความคิดริเริ่มและไม่ยอมอ่อนข้อต่ออำนาจ
More เป็นตัวอย่างของความยอมรับและความกล้าหาญในการยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง
More ยังคงเป็นบุคคลที่มีความสำคัญในยุคปัจจุบัน และแนวคิดของเขาเกี่ยวกับความเท่าเทียมกันและความยุติธรรมยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก